INDUS (อินดัส) อาหารอินเดีย ภารตะเดียวในซอยสุขุมวิท 26

INDUS : Indian Food At Sukhumvit Soi 26 Review by tan …Editor DayByDayStory

ใครจะคิดว่ามีดินแดนภารตะเล็กๆ อยู่กลางซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอาหารอินเดียขนานแท้ INDUS ซึ่งเปิดมา 15 ปีแล้ว บรรยากาศที่ถูกจัดขึ้นตั้งแต่บริเวณหน้าประตูทางเข้าร้าน ทั้ง Outdoor และ Indoor ทำให้รู้สึกว่าได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีอินเดีย การจัดตกแต่งร้านได้หรูหราภารตะจริงๆค่ะ

นี่เป็นครั้งแรกของการมารีวิวร้านอาหารอินเดีย และรับประทานอาหารอินเดียก็เป็นครั้งแรกเช่นกัน บอกเลยว่าประทับใจมากๆ ในความเป็นอาหารอินเดียที่ใส่ใจในทุกขั้นตอนของการปรุงแต่ง มีความแปลกใหม่ รสชาติลงตัว สีสันสวยงาม รวมไปถึงบริการที่พนักงานของร้านน่ารัก นอบน้อม นั่นเพราะได้รับการอบรมมาอย่างดีในการดูแล เทคแคร์แขกที่มารับประทานอาหารไม่มีขาดตกบกพร่อง เมื่อรวมๆ ทุกอย่างของ INDUS แล้ว ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมร้านถึงได้มีลูกค้าแน่นเกือบทุกวัน ทั้งที่เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติแทบไม่มีแบบนี้ แต่คนที่อยู่ในประเทศไทย ก็ติดอกติดใจกับอาหารอินเดียแท้ๆ ที่หาทานได้ยากและราคาขอบอกได้เลยว่า อิ่มอร่อยกับราคาที่แสนจะกันเองอีกด้วย

INDUS เป็นห้องอาหารที่หรูหรากว้างขวาง บนเนื้อที่ 1 ไร่ ภายในมีจัดแบ่งเป็น 3 โซน ด้านหน้าทางเข้าจะมีห้องไว้รับรองแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหรือจัดประชุมสัมนาหรือจัดเลี้ยง ถัดมาจะเป็นโซนขนาดกลาง เป็นห้องที่รับรองลูกค้าหลากหลายมุม และห้องสุดท้ายจะเป็นห้องใหญ่กว้างขวาง สำหรับรองรับแขกทีมาหลายๆท่าน ผนังภายในร้าน ประดับประดาไปด้วยคอลเลคชั่นงานศิลปะที่น่าประทับใจ ตรงที่ประตูทางเข้ามีกรอบรูปแบบ Rajasthani โบราณเพื่อสร้างบรรยากาศที่สง่างาม แสงไฟสลัว ดนตรีในเลานจ์และทิวทัศน์โดยรอบของสวนที่ได้รับการตกแต่งอย่างดี ทำให้เป็นประสบการณ์การรับประทานอาหารรสเลิศ และยังมีที่นั่งด้านนอกกว้างขวาง มีสวนสวย บรรยากาศแสนจะโรแมนติคมากในช่วงเวลาค่ำคืนอีกด้วย

เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณสิธธัตถะ เซกาล กรรมการผู้จัดการ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหาร INDUS ถึงความเป็นมาของร้าน INDUS ว่า ” หลังจากที่ผมจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กในปี 2547 แล้วก็เดินทางกลับมาประเทศไทย อยากจะมีร้านอาหารอินเดียในกรุงเทพ ที่สดใหม่และใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง สร้างสรรค์และที่สำคัญที่สุดคืออาหารต้องอร่อย ” เพราะเคยไปรับประทานอาหารอินเดียมาหลายประเทศ รู้สึกว่าอาหารอินเดียไม่ได้ถูกนำเสนออย่างถูกต้องนัก จึงต้องการที่จะสร้างสิ่งที่พิเศษให้เกิดมุมมองในการรับประทานอาหารอินเดียมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการเปิดร้านอาหารอินเดียอย่างจริงจังเมื่อ 15 ปีที่แล้ว โดยการสนับสนุนจากทางครอบครัว จากการซื้อร้านอาหาร The Whole Earth ที่กำลังจะปิดตัวลง แล้วก็เริ่มทำการปรับปรุงร้านใหม่ทั้งหมด และดำเนินการเปิดร้าน INDUS มาจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก และ INDUS ก็ยังได้รับการยกย่องในการริเริ่มให้คนไทยเปลี่ยนสไตล์การรับประทานอาหาร มานิยมชมชอบอาหารอินเดียได้ ด้วยอาหารอินเดียของอินดัส ไม่ฉุนเครื่องเทศจนเกินไป มีความกลมกล่อม กลมกลืน และรสชาติถูกปากคนไทย

**คุณสิธธัตถะ เซกาล**
**กรรมการผู้จัดการ** และเจ้าของร้าน INDUS

อาหารที่ทางคุณสิธธัตถะแนะนำ DayByDayStory ขอคอนเฟิร์มว่า อร่อยทั้งรสชาติ หน้าตาสีสันสวยงาม เมนูที่เป็น Testing Menu ถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่ร้าน นำมาปรับปรุงใหม่ให้ว๊าวมากขึ้น ทั้งวัตถุดิบ ทำให้มีรสชาติดีขึ้นและถูกปากคนไทยมากขึ้นอีกด้วย

**คุณสิธธัตถะ เซกาล**
**กรรมการผู้จัดการ**และเป็นเจ้าของร้านอาหาร **INDUS**

PAPDICHAAT

เมนูแรกเป็นเมนู PAPDICHAAT (ปั๊ปดิชาร์ต) ออเดิร์ฟทานเล่น เป็นข้าวเกรียบซึ่งทำจากแป้งถั่วนำมาทอดกรอบ มีรสเผ็ดเล็กน้อย โรยหน้าด้วยถั่วชิกพี (ถั่วลูกไก่), ใส่มันฝรั่ง ,โยเกิร์ต,เสริฟพร้อมซอสมะขาม และซอสมิ้นต์ชัทนีย์ สามารถหยิบทานด้วยมือได้ เป็นเมนูอาหารว่างที่นิยมมากที่อินเดีย มาจากนิวเดลี ซึ่งเป็นเมืองหลวง อยู่ทางภาคเหนือของอินเดีย ซึ่งขายอยู่ตามข้างถนน แต่เรานำมาปรับปรุงให้มีศิลปะสวยงาม ต้องบอกว่าอร่อยทานเพลินตั้งแต่เมนูแรกเลยล่ะค่ะ

Tandoori

ต่อมาเป็นคอร์ส Tandoori (ทันดูรี่) ซึ่งเป็นอาหารแนวบาร์บีคิว จากแคว้นปัญจาบ ทางภาคเหนือของอินเดียเช่นกัน อาหารจากภาคนี้จะเป็นบาร์บีคิวเยอะ ไก่ กุ้ง ปลา ผัก และก็จะมีพวกนม ชีส ครีม โยเกิร์ต คอร์สนี้มีอยู่ 3 เมนูที่จะเสิร์ฟพร้อมกันคือ

Tandoori Creamy Broccoli

1. Tandoori Creamy Broccoli เป็นบล็อกโคลี่จากโครงการหลวง หมักกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์บด และครีมชีส ปรุงด้วยผงกระวานย่าง นำมาย่างในเตาย่าง Tandoor (เตาดินทันดูร์ ) ของอินเดีย เป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของ INDUS

Kebab-E-Malai

2. Kebab-E-Malai ถือเป็นหนึ่งในอาหารจานเด่นของทาง INDUS เลย เป็นเมนูจากไก่เนื้อนุ่มหมักโยเกิร์ต ครีมชีส กะวาน เม็ดมะม่วงหิมพานต์บด และเครื่องเทศของอินเดียปรุงรส แล้วนำมาย่างให้มีกลิ่นหอมกลมกล่อมชวนรับประทานเป็นอย่างมาก

Tandoori Tiger Prawns

3. Tandoori Tiger Prawns (ทันเดอรี่ไทเกอร์พอน) ซึ่งเป็นกุ้งลายเสือมาหมักกับน้ำมันมัสตาร์ด ใบฟีน กรีก เครื่องเทศและโยเกิร์ตแล้วนำไปย่างในเตาย่าง Tandoor เช่นกัน

Raan Sikandari

เมนูต่อมาเป็นเมนู Raan Sikandari (รานซิคานลี่) ซึ่งเป็นขาแกะย่าง ซึ่งซื้อแกะมาจากฟาร์มที่เราซื้อเป็นประจำมา 15 ปีแล้ว เป็นเมนูที่ทำยากมาก ใช้ส่วนน่องของแกะ นำมาหมักถึง 12 ชม. และตุ๋นอีก 7 ชั่วโมง แล้วจึงนำมาย่างไฟอ่อน เนื้อจะนุ่มมาก และไม่มีกลิ่นเลย เป็นเมนูที่ไม่ต้องใช้มีดหรือช้อนส้อมเลย ใช้มือหยิบทานกับแป้งนานไดสบาย ๆ เป็นหนึ่งในเมนูที่ลูกค้าชอบมากๆ

มาต่อกันที่เมนูที่เป็น Main Course ซึ่งจะมี 3 เมนูเช่นกัน คือ

Butter Chicken

1. Butter Chicken (บัตเตอร์ชิกเก้น) แกงกระหรี่ไก่ เป็นไก่รมควัน ย่างเสร็จแล้วจะนำมาเคี่ยวในน้ำเกรวี่ที่เป็นเกรวี่มะเขือเทศพร้อมด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์และราดด้วยเนยครีมเพื่อให้มีความครีมมี่ ทานกับแป้งนานเพิ่มความอร่อยสุดฟินเลยล่ะค่ะ

Palak Paneer

2. Palak Paneer (พาลัคพาเนีย) ผักโขมสับใส่ครีมเสิร์ฟผัดร่วมกับคอสเทจชีสสูตรพิเศษของ ทางอินดัส หั่นเป็นทรงสี่เหลี่ยม สำหรับคนชอบทานผัก เป็นที่น่ารับประทานยิ่งนัก

Khatte Baingan

3. Khatte Baingan (คาเทแบงค์) แกงมะเขือม่วงเผา ปรุงด้วยหอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ เครื่องเทศอินเดีย นำมาเผาแล้วเสิร์ฟในแกงกระหรี่ มีความครีมมี่ นัททรี่และมีความเปรี้ยวนิดนึงของโยเกิร์ต เสิร์ฟพร้อมกับข้าวบาสมาติ ซึ่งหุงกับหญ้าฝรั่น และเสิร์ฟพร้อมกับแป้งนาน โรยกระเทียม หอมอย่าบอกใครเชียวค่ะ

เมนูสุดท้ายคือ Murgh Dum Biryani เมนูข้าวหมกไก่

Murgh Dum Biryani

Murgh Dum Biryani เมนูข้าวหมกไก่ ซึ่งเป็นสูตรของทางภาคเหนือของอินเดีย จากจ.ลัคนาว (Lucknow) ถ้าเป็นทางภาคใต้จะมีกลิ่นเครื่องเทศแรง รสเผ็ดและมีสีแดงกว่า รสชาติจะต่างจากทางภาคเหนือซึ่งมีสีเหลือง และมีกลิ่นหอมจากดอกไม้มากกว่ากลิ่นเครื่องเทศ และต้องทำในหม้อดิน ซึ่งเป็นสูตรใหม่ ที่ทาง INDUS เพิ่งมาทำได้ประมาณปีนึงได้ ข้าวหมกไก่สไตล์อินดัส จะมีการออกแบบโดยการนำแป้งมาซีลพร้อมกับข้าว ไก่ และเครื่องปรุง ให้สุกพร้อมกัน เวลาจะทาน ต้องมีการใช้มีดกรีดฝาด้านบนให้ออกมาเป็นข้าวหมกไก่อยู่ข้างใน ต้องขอบอกว่าเมนูนี้อร่อยถูกใจและยังมีความครีเอทมากๆค่ะ

อาหารคาวมาเสิร์ฟครบทุกเมนูด้านบนนี้ อิ่มอร่อยสุดๆ แต่ยังไม่หมด มาผ่อนคลายกับ Ayurvedic Chai ชาร้อนสมุนไพร ซึ่งอุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากสมุนไพรไทย เช่น กานพลู ขิง ใบโหระพา กระวาน เมล็ดยี่หร่า และน้ำผึ้ง ช่วยให้สดชื่นสบายท้องหลังมื้ออาหารได้ดีทีเดียวค่ะ

Ayurvedic Chai

พอสบายท้องแล้ว ก็มาตบท้ายกันที่ขนมหวานที่หอมละมุนมาก ๆ นั่นคือ Gulab Jamun Flambe‘ กุหลาบจามุน ทำมาจากนมเคี่ยวให้แห้ง แล้วนำไปทอดในน้ำเชื่อมผสมน้ำกุหลาบ มีรสชาติหวานนำ ที่สำคัญมีการโชว์การทำขนมหวานเมนูนี้ให้เราได้ชมกันที่โต๊ะ ให้ตื่นตาตื่นใจกันอีกด้วยนะคะ

Gulab Jamun Flambé

และขนมหวานเมนูสุดท้ายคือ Phirni พุดดิ้งข้าว โรยหญ้าฝรั่น และกระวานเขียว เสิร์ฟให้ทานแบบเย็นๆ ได้รสชาติและความหอมของกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ เป็นเมนูที่หวานลงตัว อร่อยสมคำร่ำลือมากๆค่ะ

Phirni

INDUS ร้านอาหารอินเดีย สไตล์อินเดียนต้นตำรับแท้ สวยหรูดูดี อาหารอร่อย แถมด้วยรางวัลมิชลิน มาแล้ว 2 ปี และปีนี้ได้อีกเป็นปีที่ 3 จึงการันตีในเรื่องของความอร่อยและความสะอาด ถูกหลักอนามัยแน่นอน นอกจากนี้ สำหรับช่วงเทศกาลกินเจ ทางร้าน INDUS ยังมีอาหารเจไว้บริการอีกด้วย ซึ่งจะเป็นพวกปิ้งย่าง แกงกระหรี่ และข้าวหมกขนุน ซึ่งอาหารเจจะมีอยู่ใน ALACARTE MENU อยู่แล้ว

AWARDS 1. Michelin Plate – 2018, 2019 and 2020 2. BK TOP TABLES – 2020 3. Thailand Tatler’s Best Restaurants – 2020

สำหรับบุฟเฟ่ต์จะมี WEEKDAY LUNCH SET : Prices from 450++ to 750++ Baht per person DINNER SET : Prices from 900++ to 1,250++ Baht per person Every Saturday & Sunday from 11:00-15:00 Price 950++ per person 50% discount for kids of 5-12 years and Kids below 5 years eat for free *ทุกเย็นวันพฤหัสบดี มีดนตรีสด(เปอติ๊ด ญาดา เดอะวอยซ์ )เวลา 6โมงเย็นเป็นต้นไป*

ร้านอาหาร INDUS (อินดัส ) ตั้งอยู่เลขที่ 71 สุขุมวิทซอย 26 คลองเตย กรุงเทพฯ 10110 เปิด-ปิด : 11:00 – 22:30 น. สำรองที่นั่ง โทร : 086-339-8582 / 02-258-4900 Website : www.indusbangkok.com : http://www.cateringbyindus.com Facebook : www.facebook.com/indusbkk/ Instagram: @indusbkk Delivery Service : www.orderindusbangkok.com Map : https://goo.gl/maps/Er8cMAsdpTr9JojWA

******การเดินทาง ถ้ามาทางรถไฟฟ้าBTS ลงสถานีพร้อมพงษ์ แล้วเรียกรถเข้าซอยสุขุมวิท 26 ร้านจะอยู่กลางซอยซ้ายมือ หรือเข้าทางถนนพระราม 4 ก็ได้ เลี้ยวเข้าซอยตรงห้างบิ๊กซี พระราม 4 เข้ามาไม่ไกล ร้านจะอยู่ทางขวามือ เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่สองชั้นสีขาวทรงโบราณ มีที่จอดรถด้านหน้าได้หลายคันนะคะ ********