ภาพถ่ายในภูมิทัศน์ของ Oasi Zegna ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของค่านิยมอันล้ำค่าของเรา – โดยใน Outdoor Collection ใหม่นี้ยังคงสานต่อวิสัยทัศน์ของแบรนด์ @ZEGNAOFFICIAL (เซนญ่า) ในการหลอมรวมมรดกของเราในด้านคุณภาพเนื้อผ้าชั้นดีและหรูหราที่เข้ากับความต้องการของสุดยอดกีฬากลางแจ้ง โดยอาณาเขตธรรมชาติที่เปิดให้เข้าใช้ได้ฟรีที่มีขนาดกว้างใหญ่นี้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2453 อันเป็นผลมาจากแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผู้ก่อตั้งของเรา ส่งผลให้เกิดโครงการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมขนาดใหญ่ที่สร้างการพึ่งพาอาศัยกันอย่างยั่งยืนเพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและชุมชน
คอลเลคชันนี้ปรับตามความต้องการและเน้นการใช้งานได้อเนกประสงค์และเต็มประสิทธิภาพที่เป็นปัจจัยหลักของเสื้อผ้า Luxury Leisurewear ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ ZEGNA โดยยึดปัจจัยด้านประสิทธิภาพ เทคนิค และความทันสมัย เพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศภายนอก คอลเลคชันนี้สร้างขึ้นจากสิ่งทอที่เปี่ยมไปด้วยเทคนิคมากมายและอัดแน่นด้วยรายละเอียดที่สามารถใช้งานได้จริง ในคอลเลกชันนี้จะเน้นฟังก์ชันการทำงานที่เหมาะสำหรับทั้งนักสำรวจสมัยใหม่และเสื้อผ้าสำหรับอากาศเย็นทุกวัน ความพอดีตามหลักสรีรศาสตร์และการออกแบบใหม่ผสมผสานเข้ากับสิ่งทอและการคิดค้นโครงสร้างนวัตกรรมใหม่ โดยคอลเลคชันนี้ครอบคลุมตู้เสื้อผ้าอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงเสื้อตัวนอก เสื้อถัก เสื้อใน เสื้อสเวตเตอร์ที่ใช้เทคนิคโดยเฉพาะ และกางเกงขายาว ที่กลายเป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้ชีวิตกลางแจ้ง
เพื่อเป็นการยกย่องและชื่นชมมรดกของเรา ในคอลเลกชั่น Outdoor จึงมีตราสัญลักษณ์ ZEGNA 232 road Brand Mark ภาพกราฟิกสี Vicuña แบบสองแถบได้รับแรงบันดาลใจจากถนนลาดยางยาว 26 กม. ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ซึ่งเชื่อมต่อ Oasi Zegna กับชุมชนท้องถิ่น การแสดงความเคารพต่อคุณค่าและแนวคิดของแบรนด์มานานกว่า 110 ปี Brand Mark ที่กล้าหาญเป็นตัวแทนของทั้งอดีตและอนาคตของเรา และเหมาะอย่างยิ่งกับคอลเลกชั่นอย่างสุดซึ้ง
คอลเลคชันนี้เน้นที่ไลฟ์สไตล์ที่แอ็คทีฟผสมผสานกับเครื่องประดับอุปกรณ์ที่รังสรรค์ขึ้นโดยร่วมมือกับแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในวงการกีฬาและการแสดง ได้แก่ La Sportiva, Garmin, zai, TSL, Sigg และ KASK
ZEGNA และแบรนด์ La Sportiva ได้รังสรรค์ TX Top GTX Boots รองเท้าบูทที่มีโครงตาข่ายด้านบนที่สามารถกันน้ำได้ และ พื้นรองเท้าจาก Vibram ที่ทนทานเหมาะสำหรับการปีนเขาและลัดเลาะไปข้ามผ่านตามเส้นทาง off-road สำหรับนาฬิกา Venu® 2 Plus Smartwatch เราเลือกใช้เทคโนโลยี GPS ที่เป็นนวัตกรรมใหม่จาก Garmin ที่มีตราสัญลักษณ์ ZEGNA 232 road อีกทั้งยังติดตั้งโปรแกรมพร้อมคุณสมบัติด้านสุขภาพ ด้านการชำระเงิน และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย — และที่ขาดไม่ได้สำหรับแบรนด์ TSL ที่ได้ออกแบบไม้ค้ำสกีสำหรับใช้บนพื้นลาดเอียงบนลานสกีที่อิงตามหลักสรีรศาสตร์พร้อมระบบพับที่สะดวกสบายและรองเท้าลุยหิมะ Symbioz Hyperflex Original 2 ซึ่งได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมมาเพื่อใช้สำหรับใช้สำหรับเดินได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมและมีคุณสมบัติในการดูดซับแรงกระแทกสูง ซึ่งการร่วมงานครั้งนี้กับแบรนด์ Zai จึงทำให้มีอุปกรณ์สกีประสิทธิภาพสูงที่ถูกออกแบบขึ้นด้วยเทคโนโลยี PowerRail ในขณะที่ความเชี่ยวชาญเหนือกาลเวลาของแบรนด์ Sigg จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์นั้นสอดคล้องกับสไตล์ที่ประณีตของ ZEGNA ด้วยขวดน้ำอะลูมิเนียมที่ปิดด้วยตราสัญลักษณ์ ZEGNA 232 road ของเรา สุดท้ายนี้อีกหนึ่งการร่วมงานกันของเรากับแบรนด์ KASK ทำให้เกิดหมวกสกี Piuma Ski Helmet แบบด้านซึ่งติดโลโก้ ZEGNA 232 road และปิดท้ายด้วยหน้าเลนส์แบบดับเบิ้ลที่มีคุณสมบัติกันฝ้าได้ดีพร้อมสายหนังรัดคางที่ผลิตจากหนัง
โดยคอลเลกชันนี้จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 65 ในร้านค้าปลีกระดับประเทศของ Zegna ที่ Zegna.com และที่ร้านค้าที่ได้รับเลือก
ZEGNAแรงบันดาลใจจากผู้ก่อตั้งผู้มีวิสัยทัศน์ของเรา ZEGNA เดินตามเส้นทางของตัวเองที่ Ermenegildo สร้างขึ้นเมื่อกว่า 110 ปีที่แล้วในภูเขาใน Piedmont ทางตอนเหนือของอิตาลี ถนน 232 ของเขาซึ่งตัดผ่านพื้นที่ธรรมชาติ Oasi Zegna ขนาด 100 ตารางกิโลเมตรที่รายล้อมโรงสีขนแกะ ZEGNA ดั้งเดิม ได้กลายเป็นภาพนามธรรมและเป็นสัญลักษณ์ของเอกลักษณ์ของแบรนด์ ZEGNA ซึ่งแสดงประวัติศาสตร์ด้วยชื่อสกุลของผู้ก่อตั้ง ก่อตั้งขึ้นในฐานะผู้ผลิตผ้า ZEGNA เป็นที่รู้จักในระดับสากลในฐานะแบรนด์เสื้อผ้าบุรุษระดับแนวหน้าของ global และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Ermenegildo Zegna บริหารโดย Gildo Zegna ในฐานะประธานและซีอีโอ ZEGNA Group ออกแบบ สร้างและจัดจำหน่ายเสื้อผ้าบุรุษและเครื่องประดับสุดหรูภายใต้แบรนด์ ZEGNA และเสื้อผ้าสตรี เสื้อผ้าบุรุษ และเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ Thom Browne ไปยังร้านค้ากว่า 500 แห่ง โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565, 295 ดำเนินการโดยกลุ่มบริษัทโดยตรง (242 ZEGNA และ 53 Thom Browne) ใน 80 ประเทศทั่วโลก ยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้ประโยชน์จากมรดกอันล้ำค่าเพื่อสร้างปัจจุบันและอนาคตที่ดีขึ้น