Review The Marshal Social Cafe
หากใครอยากจะไปทานอาหาร เครื่องดื่ม คาเฟ่ บาร์เบียร์ และดูดดื่มกับบรรยากาศบ้านเก่าและอาณาบริเวณกว้างขวางบนเนื้อที่ 2 ไร่ ก็คงหาไม่ได้ง่ายๆ ในเมืองหลวง โดยเฉพาะในแถบย่านประดิพัทธ์ สะพานควาย ใครจะคิดว่าจะมีบรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้น อะเมสซึ่งมากๆ บนถนนประดิพัทธ์ ซอย 13 เข้ามานิดเดียวจะเห็นรั้วสีเขียวเข้มด้านขวา มองเห็น คฤหาสน์หรูร่วมสมัยโทนสีฟ้าเข้มตัดขาว และสนามหญ้ากว้างขวางเขียวชอุ่ม ต้นไม้ร่มรื่น ขับรถเข้าไปตรงด้านหลังร้านที่จอดรถที่กว้างขวาง จอดได้มากกว่า 20 คัน สถานที่กว้างขวางจริงๆ ที่นี่มีชื่อว่า Heritage Ville
ด้านหลังร้านมีที่จอดรถกว้างขวาง
Heritage Ville เป็นคอมโมนิตี้เล็กๆ มีทั้งเรสเตอรองท์ คร๊าฟเบียร์ คาเฟ่ และซาลอนผม บ้านหลังใหญ่ด้านหน้าสุด จะเป็นบ้านไม้สักโบราณหลังใหญ่ที่ถูกรีโนเวทใหม่ให้ร่วมสมัย มาทำเป็นร้านอาหารสุดหรูแนวสถาปัตยกรรมสไตล์ Art Deco แต่ยังคงความโบราณคลาสสิคไว้อย่างน่าชื่นชม เจ้าของเฮอริเทจ วิลล์ เล่าให้ฟังว่า ที่นี่เป็นบ้านเก่าแก่ของท่านจอมพลอากาศฟื้น ฤทธาคนี อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ เมื่อประมาณ 70 ปีที่แล้ว
Eight Days A Week Homebar
Salon De Marshal
เจ้าของเฮอริเทจยังเล่าให้ฟังต่ออีกว่าเรสเตอรองท์นี้เพิ่งเปิดมาได้ประมาณ 2 เดือนนี้เอง คงเป็นด้วยวาสนาชะตาต้องกัน ทำให้ได้มีโอกาสนำสถานที่แห่งนี้มารีโนเวทให้สวยงาม โดยยังเก็บความโบราณและมนต์ขลังหลายอย่างให้คงอยู่ ตรงด้านหลังใกล้ที่จอดรถ ก็จะเป็นคราฟต์เบียร์ เล็กๆ ชื่อว่า Eight Days A Week homebar ส่วนเรสเตอรองท์บนคฤหาสน์ไม้สักสุดคลาสสิค ชื่อ The Marshal Social Cafe (เดอะมาร์แชลโซเชียลคาเฟ่ ) และเลยเข้าไปด้านในสุดจะมีซาลอนเรือนไม้ชั้นเดียวสีขาวเรียบหรูชื่อ Salon de Marshal ไว้บริการเรื่องความงามด้านผมอีกด้วย บรรยายไม่ถูกเลยว่าสถานที่นี้มีเสน่ห์ หรูหราสุดคลาสสิคขนาดไหน คงต้องให้ดูจากภาพที่ลงให้ดูเองแล้วกันนะคะ จะได้เห็นชัดเจนขึ้น
The Marshal Social Cafe (เดอะมาร์แชลโซเชียลคาเฟ่) เป็นเรสเตอรองท์สุดคลาสสิค หรูหรามี 2 ชั้น ชั้นล่างจะมีด้านหน้าและด้านในก่อนทางขึ้นชั้น 2 เป็นโถงใหญ่สำหรับนั่งพักผ่อน ซึ่งจัดเป็นโซฟาใหญ่ทรงกลมสวยงามถูกใจมากๆ มองทางห้องขวามือมีประตูกระจกเข้าไปเป็นห้องแอร์กว้างขวาง โปร่งโล่งสบาย สถานที่ถูกจัดไว้อย่างมีระเบียบ ตกแต่งให้ดูเรียบหรูสวยงามมากๆ เฟอร์นิเจอร์ครบครัน ตรงกลางห้องอาหารนี้ มีเปียโนตัวสวยวางตั้งสง่าโดดเด่นเลยทีเดียวค่ะ
ส่วนชั้น 2 ซึ่งอยู่ด้านหน้าทางขึ้นเป็นบันไดไม้สักทองดั้งเดิม และหินอ่อนจากอิตาลีทั้งหมด โดยมีการตกแต่งเพิ่มเติมราวบันไดให้โดดเด่นและหรูหราสมฐานะมากยิ่งขึ้น สำหรับ ชั้น 2 มีห้องแบบไพรเวตให้เลือก 2 ห้อง คือ
ชั้น 2
– Red Arrows เป็นห้องตกแต่งเน้นสีแดง มีที่นั่งประมาณ 3-4 ที่ เหมาะกับการมานั่งคุยกันกลุ่มเล็ก
Red Arrows
– Thunderbirds เป็นห้องไพรเวตบนชั้น 2 อีกห้องที่ออกเป็นโทนสีเขียว ธีมการตกแต่งเป็นธรรมชาติเน้นรูปต้นไม้และผีเสื้อ ให้ฟีลลิ่งแบบธรรมชาติ เป็นโซนที่นั่งแบบโซฟา เหมาะกับการมานั่งคุยกันกลุ่มใหญ่ขึ้นมาหน่อยสักประมาณ 5-10 คน ทั้งสองห้องสามารถจองเป็นห้องส่วนตัว นั่งคุยงาน พบปะ หรือสังสรรค์ก็สะดวกสบายมากค่ะ
Thunderbirds
เมื่อได้โต๊ะนั่งริมกระจกใสบานใหญ่เป็นที่เรียบร้อย เราก็มองออกไปด้านนอกเป็นเทอร์เรสที่กว้างขวาง มาก มีโต๊ะสำหรับรองรับลูกค้าที่ต้องการนั่งชิลล์ และชมบรรยากาศธรรมชาติ มีต้นไม้ใหญ่น้อยทำให้ร่มรื่น เย็นสบาย เหมาะสำหรับมาทานกับเพื่อน ๆ หรือมาเป็นครอบครัวก็ได้เพราะมีสนามหญ้าและลานคอร์ตยาร์ดขนาดใหญ่ ผู้ใหญ่เดินเล่นพักผ่อนอิริยาบท ส่วนลูกหลานหรือเด็กเล็ก รวมทั้งน้องหมาน้องแมว ก็สามารถพามาเดินเล่นด้านนอกได้อย่างสบายอารมณ์เลยค่ะ
The Marshal Social Cafe เป็นร้านอาหารไทย/นานาชาติ บริการอาหารและเครื่องดื่มแบบ Home-cooked เหมาะสำหรับมาทานอาหารและเครื่องดื่มกับคนรัก เพื่อนฝูง หรือมากับครอบครัว หรือสังสรรค์เป็นกลุ่มส่วนตัว แล้วก็ได้ฟินน์กับบรรยากาศแบบธรรมชาติอย่างไร้ขีดจำกัดกันเลยค่ะ
เมื่อทุกอย่างเข้าที่ และลงตัว เราก็จะเริ่มต้นดื่มด่ำกับเครื่องดื่มซึ่งมีหลากหลายเมนู ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องดื่มที่ทางคาเฟ่ภูมิใจนำเสนอมากๆ ทั้งชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่ร้าน เป็นสูตรที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเพื่อต้องการความเป็นหนึ่งในใจของผู้ดื่ม มาแนะนำเครื่องดื่มที่โดดเด่นกันก่อนนะคะ เริ่มต้นที่
บาริสต้ากำลังปรุงและโชว์ขั้นตอนการชง กาแฟดริป
กาแฟดริป ซึ่งจะมี 4 ตัว จากประเทศบราซิล กัวเตมาลา และจากไทย 2 ตัว ที่ดอยผาฮี้ จ.เชียงราย และดอยน่าน จ.นาน กรรมวิธีในการทำ ต้องใช้เวลาทำนานซักพักนึงเพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมถูกใจด้วย 4 รสชาติสำหรับนักดื่มกาแฟที่ชอบกาแฟเพียวๆ ดื่มด่ำความเป็นกาแฟดริปที่ต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ
ธันเดอร์เบิร์ด เดอร์ตี้
ต่อมาเป็นเมนู ธันเดอร์เบิร์ด เดอร์ตี้ เป็นกาแฟสกัดรีเทสโต้ผสมนมที่ไม่ใส่น้ำแข็ง แต่ทำให้มีความเย็นซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของที่ร้าน มีรสหวานเล็กน้อย เมนูนี้มีเทคนิคการดื่ม ต้องดื่มเป็นคำใหญ่ ๆ เพื่อจะได้ดื่มด่ำในรสชาติได้มากขึ้นค่ะ
กาแฟอีกเมนูนึงเรียกว่ากาแฟน้ำส้ม จะมีน้ำและเนื้อส้มแมนดารินอยู่ด้านล่างครึ่งแก้ว ผสมกับเอสเพรสโซ่ 2 ช็อตด้านบน เวลาดื่มไปแล้วได้รสชาติกลมกล่อม มีรสหวานเปรี้ยวเล็กน้อย อร่อย ดื่มง่ายค่ะ
กาแฟน้ำส้ม
โคบูล กาแฟสกัดเย็น เป็นกาแฟที่ต้องสกัดด้วยน้ำอุณหภูมิห้องเป็นเวลา 12 ชั่วโมง เป็นกาแฟแคลลอรี่ต่ำ รสชาตินุ่มนวล ดื่มง่าย
โคบูล กาแฟสกัดเย็น
อเมริกาโน่น้ำผึ้งนางพญาออแกนิค สำหรับนักดื่มกาแฟที่ไม่ชอบใส่ครีมหรือนม ก็คงถูกอกถูกใจ ยิ่งมีน้ำผึ้งมาเสริมความอร่อยให้อเมริกาโน่แก้วนี้ โอ๊ยเข้มและหวานพอดิบพอดีเชียวค่ะ
อเมริกาโน่น้ำผึ้งนางพญาออแกนิค
ต่อมาจะเป็นโฟล์ทน้ำสับปะรด ใส่ไอศกรีมกับเยลลี่ ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว บวกกับไอศกรีมด้วยแล้วยิ่งเพิ่มความอร่อย ถูกใจมากๆ ค่ะ
โฟล์ทน้ำสับปะรด ใส่ไอศกรีมกับเยลลี่
แพสชั่นฟรุ๊ตโซดา วนิลาโฟล์ต เปรี้ยวอมหวานเช่นกัน ได้รสชาติของเสาวรสกลมกล่อมจริงๆนะคะ
แพสชั่นฟรุ๊ตโซดา วนิลาโฟล์ต
เครื่องดื่มที่เป็นซิกเนเจอร์เด็ดๆของร้านที่กล่าวมาแล้วยังมีเครื่องดื่มอีกหลากหลายอาทิเช่น กาแฟลาเต้ที่ถูกประดิษฐ์ลาเต้อาร์ตได้สวยงาม ไอศกรีม และชารสชาติต่าง ๆ ให้ผู้ที่ชื่นชอบมานั่งดื่ม แชท แชะ ได้ทุกอารมณ์เลยค่ะ
มาต่อกันที่เรื่องของอาหารจานโปรดของร้านกันบ้างนะคะ เป็นสไตล์อาหารไทย/นานาชาติ เมนูมีเยอะมากกกกค่ะ แต่ทางร้านอยากให้เราได้ลิ้มชิมรสชาติอาหารแนะนำ นอกจากหน้าตาสวยงามแล้ว ความอร่อยก็ไม่แพ้กัน ที่นี่เน้นแบบทานง่ายในราคาไม่แพงเลยล่ะค่ะ
เริ่มต้นแบบเบาๆ มาออเดิร์ฟกันก่อนด้วยสลัดทูน่า หน้าตาก็อย่างที่เห็น สำหรับคนชอบผักห้ามพลาดเมนูนี้ค่ะ อร๊อย อร่อย
สลัดทูน่า
แล้วก็มาต่อกันด้วยเมนู เนื้อเค็มต้มกระทิ อร่อยเด็ดทั้งเนื้อที่หมักให้เค็มพอประมาณ หั่นเป็นชิ้นๆ มาต้มกับน้ำกะทิที่เข้มข้น กลมกล่อมตั้งแต่คำแรกเลยล่ะค่ะ
เนื้อเค็มต้มกระทิ
ต้มข่าปลาสลิดไข่เจียว ขอให้เมนูนี้เป็นเมนูในดวงใจของ DayByDayStory เลยนะคะ ขอบอกรสชาติเข้มข้น เนื้อปลาสลิดจัดเต็ม เห็ดฟาง และยังมีโรยด้วยไข่เจียวหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆพอคำ ผสมผสานกันช่างน่ารับประทานเหลือเกินค่ะ
ต้มข่าปลาสลิดไข่เจียว
มาต่อกันที่อาหารจานเดียวที่ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของร้านนี้เลย มีฟูซิลลี่ไส้อั่ว ฟูซิลลี่กระเพรากรอบหมูสับ+ไข่ออนเซ็น สปาเก็ตตี้กุ้งแม่น้ำซอสไข่เค็ม เพนเน่ปลาสลิดกรอบซอสเขียวหวาน และอาหารไทยๆ อย่างข้าวกระเพราเนื้อน่องลาย และข้าวผัดปู ดูหน้าตากันได้เลยจากภาพ ส่วนความอร่อยขอคอนเฟิร์มเลยค่ะ แต่จะให้เชื่อใจได้จริงๆ ต้องมาลองทานด้วยตัวเองนะคะ
ฟูซิลลี่ไส้อั่ว ฟูซิลลี่กระเพรากรอบ+ไข่ออนเซ็น
สปาเก็ตตี้กุ้งแม่น้ำซอสไข่เค็ม
เพนเน่ปลาสลิดกรอบซอสเขียวหวาน
ข้าวกระเพราเนื้อน่องลาย ข้าวผัดปู
The Marshal Social Cafe อยู่ใกล้แค่นี้เอง ถนนประดิพัทธ์ ปากซอยประดิพัทธ์ 13 เป็นธนาคารกรุงไทย เลี้ยวเข้าซอยมาเพียง 80 เมตรก็ถึงร้าน มีรถหรือไม่มีรถก็มาสะดวกค่ะ มีทั้งรถประจำทาง ,รถไฟฟ้า BTS สะพานควาย แล้วต่อวินมานิดนึงก็ถึงแล้ว ที่นี่สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 200 ที่นั่ง ทั้ง Indoor และ Outdoor เปิดบริการทุกวัน 11:00 – 21:00 น. โทร 061-418-8880 LINE ID : marshalcafe Page Facebook : https://www.facebook.com/heritageville
The Marshal Social Cafe
ส่วนร้านซาลอนเดอมาร์แชล (Salon de Marshal) รับตัดผม ทำผม และบริการต่าง ๆ เกี่ยวกับผม ตั้งอยู่ในอาคารทรงไทยสีขาวบูรณะใหม่สไตล์ Thai Contemporary นำทีมช่างโดยช่างต้น ณัฐพล เข็มเพชร ผู้มีประสบการณ์ตัดผมดาราและคนดังมาเพียบ ให้บริการตามนัดหมาย และรับนัดเพียงเวลาละ 1 คิวเท่านั้น เปิดทุกวันเว้นวันพุธ 12:00 – 21:00 น.
ซาลอนเดอมาร์แชล (Salon de Marshal)
และร้าน Eight Days A Week homebar ร้านคราฟต์เบียร์รสชาติดี บรรยากาศอบอุ่น เจ้าของร้านเป็นกันเอง ดูแลใกล้ชิด ไม่ได้มีดีแค่เครื่องดื่มอย่างเดียว อาหารก็รสชาติดีด้วยเปิดทุกวัน 17:00 – เที่ยงคืน (ช่วงนี้เปิดถึง 21:00 น. )
The Marshal Social Cafe ตั้งอยู่ใน Heritage Ville (เฮอริเทจ วิลล์ ) เลขที่ 2 ซอยประดิพัทธ์ 13 ถนนประดิพัทธ์แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 (ปากซอยประดิพัทธ์ 13 เป็นธนาคารกรุงไทย เลี้ยวเข้ามา 80 เมตรเท่านั้น)
แผนที่ Heritage Ville (เฮอริเทจ วิลล์ )
** ในส่วนของ Outdoor ลูกค้าสามารถ พาน้องหมาน้องแมวมาด้วยได้นะคะ ( ลูกค้าที่พาน้องมาด้วยกรุณานั่งได้ในโซน Courtyard และ Terrace โดยน้องจะต้องอยู่ในกระเป๋า หรือรถเข็น หรือสายจูง สามารถจูงน้องเดินได้รอบบริเวณและในสนามหญ้า แต่ทางลูกค้าต้องดูแลความสะอาดด้วยหากมีกรณีอึหรือฉี่ )
DayByDayStory