MESTYLE MUSEUM HOTEL Review By Admin Tan
ฝันที่เป็นจริงของบางคน คือได้ถ่ายทอดศิลปะและ สิ่งล้ำค่าที่หาได้ยากจากอดีต มารวมอยู่ ณ ที่แห่งเดียวกัน จึงเป็นความภาคภูมิใจของเจ้าของโรงแรม Mestyle Museum Hotel ที่มิใช่เป็นเพียงแค่โรงแรมให้พักอาศัยเท่านั้น แต่เป็นพิพิธภัณฑ์โรงแรม ที่อยู่ใจกลางเมืองย่านสุทธิสาร Mestyle Museum Hotel ชื่อก็บอกแล้วว่า มีสไตล์จริงๆ
แว๊ปแรกที่เห็น ก็อึ้ง ทึ่ง ไปกับบรรยากาศตั้งแต่หน้าโรงแรมที่สัมผัสได้ถึงสไตล์การตกแต่ง ให้ดูความแปลกตาตั้งแต่ป้ายที่กำแพงริมถนนสีฟ้าเข้มสลักด้วยรูปสมอเรือสีเงิน ตัวตึกที่สูงตระหง่าน เป็นสีแดงสดตัดกับลวดลายกราฟฟิคเป็นภาพมนุษย์สีขาวดำในท่าต่างๆ บนผนังตึก บริเวณรอบๆ รายล้อมด้วยของสะสมโบราณที่นำมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งต้นไม้ใบดอกต่างๆ ที่ถูกนำมาจัดวางอย่างลงตัวและทันสมัย ซึ่งต่างจากโรงแรมทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
การมาของ DaybyDay ในวันนี้ ต้องบอกว่าคุ้มค่าที่สุด เพราะมารีวิวทั้งโรงแรมหรู ดูดีมีสไตล์ ที่มีของสะสมมาจากบรรพบุรุษ และทุกชิ้นก็มีสตอรี่ที่น่าสนใจมากๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลมีความเป็นมาอย่างไร ต้องไปหาคำตอบกัน
คุณชนัณย์ อุทัยพัฒน์
Gm ของโรงแรม
คุณชนัณย์ อุทัยพัฒน์ Gm ของโรงแรม ได้เล่าให้ฟังว่า มีสไตล์มิวเซี่ยมเพิ่งเปิดมาเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 62 นี่เอง แต่ก็มาพบกับช่วงวิกฤตโควิด 19 ไปหลายเดือน ตอนนี้กลับมาเปิดใหม่ โดยคอนเซ็บต์ของโรงแรมคือเป็นโรงแรมของนักเดินทาง และเป็น The Collector’s Hotel หรือโรงแรมของนักสะสมนั่นเอง เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น เป็นของสะสมจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก บางชิ้นมีอายุกว่า 100 ปี ก็มี ด้วยความที่เจ้าของรุ่นคุณพ่อ ชอบสะสมของเก่า มีทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซด์ และของโบราณอีกมากมาย แล้วนำมาประยุกต์เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่นำมาใช้กับโรงแรม
อย่างเช่น โซฟายาวด้านหน้าตรงล๊อบบี้ ก็ใช้เรือหางยาวผ่าครึ่ง แล้วนำเบาะหลากสีสันมาวางเป็นที่นั่ง เลยมาอีกนิดจะเป็นบันไดทางขึ้นต่างระดับ ซึ่งถือเป็นจุดเช็คอินของแขกที่มาชอบมาก เพราะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ตรงชั้นต่างระดับนี้ เข้าไปด้านในจะเป็นบาร์เครื่องดื่ม ที่มีชื่อว่าสมบัติบาร์ ซึ่งเป็นบาร์ค็อกเทลสไตล์ไทยๆ ที่เชิญนักล่าสมบัติทุกท่านเพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มและบรรยากาศสบายๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร สำหรับ เครื่องดื่มที่ถือว่าเป็น Signature Cocktails ของที่นี่ ก็จะมีชื่อแบบไทยๆ ที่ทางร้านให้นิยามของแต่ละเมนูไว้ เช่น
วนิดา (Julia) มีที่มาคือ วนิดาคือเพื่อนมัยเด็กที่เรียนมาด้วยกัน บ้านเกิดวนิดาอยู่จันทบุรี หลังกลับจากปิดเทอมทุกครั้ง วนิดามักจะเอาลิ้นจี่มาฝากเสมอ เห็นลิ้นจี่ทีไร ต้องนึกถึงวนิดาทุกที
รัญจวน (Toxin)เป็นเครื่องดื่มที่บ่งบอกถึงว่า ความรักไม่ให้สิ่งอื่นใด อกจากตนเอง และก็ไม่รับเอาสิ่งใดนอกจากตนเอง ความรักไม่ครอบครอง และก็ไม่ยอมถูกครอบครอง เพราะความรักนั้นพอเพียงแล้วสำหรับตอบความรัก(คาลิล ยิบราน)
สมบัติ (Treasure) ให้ความหมายว่า อยู่ที่เรียนรู้อยู่ที่ยอมรับมันตามความคิดสติเราให้ทัน อยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด (เครื่องดื่มนี้บาร์เทนเดอร์บอกว่านี่คือ on the rock in Thailand เลยล่ะค่ะ มีทองคำเปลวลอยอยู่บนสมบัติซะด้วย…ชิมไปแล้ว หูวว์ มึนไปแว๊ปนึงเลยค่ะ 555 )
ต่อมาก็จะเป็น เมนูละออง (September) มีความหมายมาจาก กลิ่นฝนเริ่มตกที่เชียง ใหม่ในเดือนกันยายน นั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่ม ต้มยำ (Tom-yum) เวลาเดินทางไปต่างประเทศอยากทานรสชาติไทยๆ หาไม่ได้เลย ด้วยความคิดถึงต้มยำ เมนูนี้จึงเกิดขึ้นมา เมนูหอมกรุ่น (Honeymoon) บ่งบอกถึงความหอมหวานจากวันฮันนีมูนวันนั้นยังตราตรึงจนถึงวันนี้ และหวานละมุน (TLC) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่บอกว่าอบอุ่นเหมือนความรัก หอมหวานเหมือนความรู้สึกที่สัมผัสได้ด้วยรสชาติจริงๆ สมบัติบาร์ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น.
จากเครื่องดื่มของสมบัติบาร์ที่ชั้น 1 เราเดินขึ้นมาต่อกันที่ชั้น 2 หรือจะขึ้นลิฟท์มาก็ได้ ชั้น 2 ซึ่งถือเป็นชั้นที่มีกว้างขวางพอสมควร และมีการประดับประดา ตกแต่งด้วยของสะสมและของโบราณมากมาย
ด้านนึงจะเป็นห้องจัดเลี้ยงสังสรรค์ จัดงานแต่งงานหรือจัดสัมมนามิวเซี่ยม 3 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะมีขนาดและสไตล์ที่แตกต่างกัน และมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่งดงามยิ่งนัก มิวเซียม 1 สำหรับแขก 90 ท่าน , มิวเซียม 2 สำหรับแขก 50 ท่าน, มิวเซียม 3 สำหรับแขก 60 ท่าน และ มิวเซียมฮอล์ สำหรับแขก 200 ท่าน ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร : 02 680 8899 ต่อ 4601 หรือที่ e-mail: events@mestylehotelgroup.com
ถัดมาอีกฝั่งนึงจะเป็น Resturant ที่มีชื่อว่า The Map เป็นร้านอาหารสุดหรูสำหรับรองรับลูกค้าที่มาพักที่โรงแรมนี้ ได้สัมผัสกับรสชาติอาหารที่ต้องบอกว่าแสนอร่อยเลยล่ะค่ะ เมนูที่นี่พิถีพิถันทุกขั้นตอน ตั้งแต่วัตถุดิบสดใหม่ ไปจนถึงการจัดวางอาหารมาเสิร์ฟอย่างมีศิลปะ และงดงามมาก ที่สำคัญ ถูกปากและถูกใจเป็นที่สุุด
ข้าวโพดทอด
เมนูที่ทางร้านจัดมาให้รับประทาน เริ่มต้นด้วย ข้าวโพดทอด ถือเป็นออเดิร์ฟแรกที่ทานเล่นๆ แต่อร่อยจริงจัง เป็นข้าวโพดหั่นเป็นเม็ดๆ ชุบแป้งทอดกรอบคลุกเคล้าน้ำมันทรัฟเฟิล แล้วนำมาใส่ไว้ในหีบสมบัติไม้ขนาดเล็กๆ วางบนจานกลม ขอบอกว่าเมนูนี้พี่ชอบ ทานแล้วหยุดไม่ได้จริงๆ
เมนูต่อมาเป็น vietnamese crispy crepe ที่เสิร์ฟพร้อมกับ white sauce chicken และ garlic sauce pork ก่อนรับประทานต้องใช้ช้อนเจาะรูตรงกลางของแป้งกลมๆ ที่ทอดกรอบ แล้วตักเครื่องเคียงที่เป็นหมู/ไก่ลงไปข้างใน ราดด้วยน้ำจิ้ม พร้อมทาน รสชาติกลมกล่อมอร่อยลงตัวจริงๆ ค่ะ
เมนูจานต่อมา ซึ่งเป็นสลัดส้มโอปลาหมึกฉีก ทำให้เราต้องเปรี้ยวปากกับยำส้มโอที่แปลงร่างเป็นสลัดให้รับประทานง่าย ๆ เบา ๆ และเคี้ยวกรุบๆกับปลาหมึกฉีก อร๊อยอร่อยค่ะ
มะตะบะผักโขมอบชีส
เมนูที่ถือว่าเป็นเมนูเด็ดของร้าน ก็เห็นจะเป็นจานนี้ ซึ่งเป็นมะตะบะผักโขมอบชีส แป้งเนื้อบางๆ ห่อผักนุ่มๆ อร่อยไปกับชีสและซอสขาว ทุกคนบอกกันเป็นเสียงเดียวว่าเมนูนี้ให้ 10 ดาวเลยค่ะ
อาหารคาวจบก็ต้องตามมาด้วยของหวาน ซึ่ง The Map จัดมาให้เรา 3 เมนู ซึ่งก็มี ไอติมข้าวเหนียวมะม่วง โดยไอศครีมจะผสมคลุกเคล้ากับข้าวเหนียว ทานเคล้าเคียงกับมะม่วงที่จัดมาอย่างสวยงามมาก เมนูต่อมาเป็น คอบเบลอร์แอปเปิ้ลเสาวรส เสิร์ฟมาร้อนๆ ทานคู่กับไอศครีมมะม่วงเย็นๆ ให้ความสดชื่นมากๆ และสุดท้าย ซูเฟล่กล้วย มาพร้อมกับไอศครีมช็อกโกแลตโฮมเมต เคียงไปกับกล้วยหอมสดแบบฟินน์กันไปเลยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ ที่อร่อยไม่แพ้กัน อีกหลายเมนู ซึ่งคุณชนัณย์ บอกว่า เมนูที่นำมาเสิร์ฟพวกเรา ถือเป็นซิกเนเจอร์ของที่ร้านทั้งสิ้น ใครที่มาพักที่ Mestyle Museum Hotel แล้วต้องไม่พลาดที่จะมารับประทานอาหารที่ The Map ชั้น 2 ของโรงแรมซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-23.00 น.
หลังจากอิ่มหนำสำราญบานใจกันแล้ว ก็ได้เวลาชมพิพิธภัณฑ์ เอ๊ย ชมห้องพักของโรงแรมและห้องสันทนาการอื่นๆ ที่โรงแรมนี้ห้องพักทุกห้องถูกออกแบบร่วมสมัยและมีสีสัน พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสบายระดับ 4 ดาว ซึ่งตั้งอยู่ตั้งแต่ชั้น 3 ถึง ชั้น 6 จำนวนทั้งหมด 98 ห้อง แบ่งเป็น 6 ประเภท ได้แก่
* สุพีเรีย ขนาด 25 ตรม./ 75 ห้องสำหรับ 2 ท่าน
• สุพีเรีย พลัส ขนาด 27 ตรม. /5ห้องสำหรับ 2 ท่าน * แฟมิลี่ ขนาด 30 ตรม. /5ห้อง สำหรับ 3 ท่าน
• ดีลักซ์ พลัส ขนาด 32 ตรม. / 5 ห้องสำหรับ 2 ท่าน
• ดีลักซ์ ขนาด 30 ตรม. / 4ห้องสำหรับ 2 ท่าน
• เอ็กเซ็กคูทีฟ สวีท ขนาด 52 ตรม. / 4 ห้องสำหรับ 2 ท่าน
สำหรับชั้นที่เราขึ้นมาเป็นชั้น 4 เป็นชั้นที่เรียกว่า Art ทั้งชั้น เพราะชั้นนี้ถูกดีไซน์ให้เป็นเสมือนนิทรรศการทางศิลปะก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นผนังทางเดิน ระเบียง และห้องพัก เป็นสไตล์ศิลปะทั้งชั้น เป็นบุญตาจริงๆ นะคะ ที่ได้ขึ้นมาชมความงามทางศิลปะภายในโรงแรมหรูแบบนี้ เรียกว่าศิลปะแบบสุดขั้วจริงๆค่ะ
จากนั้น เราก็ขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า ชั้น 8 ซึ่งอะเมสซิ่งมาก ๆ บนดาดฟ้านี้ มีสระน้ำยาวขนาด 18 เมตร สีแดงสดใสสวยงามมาก และมีของตกแต่งมาจากของสะสมที่หาได้ยากยิ่งนักในปัจจุบันมาตกแต่งบนชั้นดาดฟ้ามากมาย มีมุมคาเฟ่และเครื่องดื่มค็อกเทลจากฮูลาฮูล่าบาร์ที่อิมพอร์ตมาจากต่างประเทศมาตั้งไว้บนดาดฟ้า ถือเป็นมุมถ่ายภาพที่สวยงามมากอีกมุมนึงของโรงแรมนี้ และสามารถนั่งพักผ่อนหย่อนใจชมวิวทิวทัศน์ได้สบายๆ
บนดาดฟ้าชั้น 8 นี้จะมีห้องฟิตเนสไว้รองรับแขกที่มาพักแบบครบครัน สำหรับฟิตเนสและสระว่ายน้ำ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-21.00 น.
ทาง Mestyle Museum มีจัดโปรโมชั่นพิเศษสุด จนถึงสิ้นเดือนกันยายนศกนี้ และยังมีโปรโมชั่นในแต่ละเดือน ซึ่งสามารถติดตามได้ในเพจเฟสบุ๊คของ มีสไตล์มิวเซียม หรือเว็บไซต์ : www.mestylemuseum.com ได้เลยค่า
MeStyle Museum Hotel 99 Soi Pracha RatBamphen 18, Samsen Nok, Huai Khwang, Bangkok
Tel : 02 690 8899 e-mail : rsvn@mestylehotelgroup.com Map : https://goo.gl/maps/dqr14siH3Dai55yT6 สำหรับคนที่ไม่ได้นำรถมา สามารถเดินทางด้วย MRT มาลงที่สถานีห้วยขวาง ทางออก 1 แล้วต่อรถตู้โรงแรม ฟรี ทั้งไป-กลับ ในช่วงเวลา 09.00-18.00 น. (หรือต่อวินมอไซค์ 20 บาท)
#mestylemuseum #สมบัติบาร์ #สมบัติล้ำค่า #sombatbar #thaicocktailbar #thaicocktails #bangkokhiddenbar #bangkokbar