วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ พร้อมทั้งปล่อยขบวนรถเพื่อส่งมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการทั่วประเทศ ตามโครงการมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวรายงาน พร้อมด้วย คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารกระทรวง พม. ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรคนพิการ คนพิการ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน
นายเศรษฐา กล่าวว่า โครงการมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประชาชนชาวไทย ซึ่งเป็น 1 ใน 10 โครงการ ในนามรัฐบาลที่น้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีมีสุขมาสู่การปฏิบัติ โดยมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รับไปดำเนินการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติทุกประการ
โดยได้ดำเนินการค้นหาคนพิการที่มีรายได้น้อย ประสบความเดือดร้อน เข้าไม่ถึงสิทธิ สวัสดิการ ให้ได้รับกายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการตามความต้องการและเหมาะสมต่อสภาพความพิการของแต่ละบุคคล ส่งผลให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ และสามารถเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมได้อย่างเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไป นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี และยกระดับคนพิการที่มีศักยภาพให้ได้รับการจ้างงาน สร้างอาชีพ รายได้ ซึ่งต้องขอความร่วมมือทุกหน่วยงานดำเนินการจ้างงานคนพิการให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด เพื่อทำให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถพึ่งตนเองได้ ซึ่งกายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการถือเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถทดแทนสิ่งที่คนพิการขาดหาย และทำให้คนพิการที่มีฐานะยากจนสามารถเข้าถึงบริการของรัฐได้อย่างทั่วถึง
จึงนับว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความจงรักภักดีจากคณะรัฐบาล โดยผลสัมฤทธิ์ไปสู่ประชาชน “คนพิการ” ที่อยู่ภายใต้พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทย มีคนพิการที่ประสบปัญหาความยากจน ประมาณ 1.35 ล้านคน และยังเข้าไม่ถึงสิทธิ และสวัสดิการอีกจำนวนมาก กระทรวง พม. โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) จึงได้ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมทั้งอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรคนพิการในทุกพื้นที่ สำรวจความต้องการกายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการ เพื่อค้นหาคนพิการให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึงมากที่สุด ด้วยการจัดโครงการมอบกายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
โดยในระยะที่ 1 จะดำเนินการนำร่อง 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ ปทุมธานี พิษณุโลก สุพรรณบุรี พะเยา อุทัยธานี เพชรบุรี สกลนคร เชียงราย ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา สงขลา นครปฐม หนองบัวลำภู ลพบุรี และอุบลราชธานี อีกทั้งมีการปล่อยรถมอบกายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการไปสู่คนพิการในจังหวัดต่างๆ ต่อไป
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ มีกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การมอบรถเข็นนั่งคนพิการ การจัดบูธสาธิตกายอุปกรณ์ และเครื่องช่วยความพิการ การแสดงผลงานด้านการพัฒนาศักยภาพของคนพิการ การปล่อยขบวนรถนำส่งกายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการไปให้คนพิการในจังหวัดต่างๆ ซึ่งทั้งหมดได้รับสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โครงการดังกล่าว คนพิการจะได้รับกายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการที่มีคุณภาพที่ดีอย่างรวดเร็ว โดยคำนึงถึงความต้องการของคนพิการอย่างแท้จริง ซึ่งกายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการ นับเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตของคนพิการ เพราะเป็นสิ่งทดแทนสิ่งที่ขาดหาย หรือรองรับสภาวะความพิการไม่ให้มีความพิการเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการบางลักษณะที่ในอดีตคนพิการที่มีฐานะยากจนจะไม่สามารถเข้าถึงบริการได้ เช่น รถเข็นนั่งคนพิการที่มีคุณภาพดี เตียงนอน เบาะลมฯ แต่โครงการนี้จะช่วยให้คนพิการได้เข้าถึงได้มากขึ้น และเชื่อว่าทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีความแตกต่างมากน้อยแค่ไหน เราเข้าใจความแตกต่างและพร้อมที่จะดูแลคนไทยทุกคนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง