ในปี 2020 นับเป็นการครบรอบ 110 ปี ของแอร์เมเนจิลโดเซนญ่า (Ermenegildo Zegna) แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่โลกเกิดเหตุการณ์อันไม่คาดคิดอย่างรวดเร็ว แต่นั่นถือเป็นโอกาสที่จะทำให้เราหันกลับมามองถึงการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ในสิ่งที่เรียกว่า เป็นแก่นแท้หลักของแบรนด์ รวมไปถึงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะในช่วงเวลาอันยากลำบากของมวลมนุษยชาติ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายในการที่เราจะตระหนักถึงเหตุและผลของการดำรงอยู่ ในโลกใบนี้ด้วย ทั้งยังตระหนักถึงการกระทำของเราที่จะช่วยสร้างคุณค่าและความเป็นอยู่ที่ดีต่อผู้อื่นและโลกใบนี้
แอร์เมเนจิลโดเซนญ่าก็เช่นเดียวกัน เริ่มต้นจากการเป็นโรงงานสิ่งทอ มาจนถึงการเป็นโรงงานผลิตเสื้อผ้า นับตั้งแต่ ก่อตั้งขึ้น แอร์เมเนจิลโดเซนญ่ามีความผูกพันกับธรรมชาติมาอย่างเหนียวแน่น ไม่เพียงแค่การเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบและแหล่งที่มาเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้รักษาไว้ซึ่งความหลากหลายทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ นั่นก็คืออุทยานแห่งชาติ โอเอซิ เซนญ่า (Oasi Zegna)
สำหรับ Ermenegildo Zegna XXX คอลเลคชั่นฤดูร้อน 2021 นี้ ถือเป็นโปรเจ็กต์พิเศษที่หลอมรวมเอาเสื้อผ้าและการนำเสนอแบบใหม่ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกัน รวมไปถึงประสบการณ์ในการรับชมในรูปแบบไลฟ์สดราวกับสายสัมพันธ์ที่มีความพิเศษแตกต่างไม่เหมือนใคร ระหว่างธรรมชาติและจักรกล อันมีมนุษย์เป็นผู้ที่ทำการเชื่อมต่อสายสัมพันธ์นี้ ด้วยอารมณ์ความรู้สึกและความสมเหตุสมผล
การถ่ายทำทั้งในโรงงานผลิตผ้าวูล ลานิฟิโซ เซนญ่า (Lanificio Zegna) ในเมืองทริเวโร (Trivero) ทางตอนเหนือ ของประเทศอิตาลี รวมไปถึงในอุทยานแห่งชาติ โอเอซิ เซนญ่า (Oasi Zegna) อันก่อให้เกิดสิ่งที่เป็นมากไปกว่าแฟชั่นโชว์ ที่ส่งผลให้งานนั้นได้โลดแล่นไปตามผืนดินและทางเดินอย่างอิสระ ทั้งในที่โล่งกว้างหรือในโรงงาน ท้ายสุดแล้วเซนญ่าได้สร้างสรรค์ความจริงอันเป็นหนึ่งเดียวขึ้นมา ที่ซึ่งองค์ประกอบทางธรรมชาติและสิ่งทอสอดประสานเข้ากันได้อย่างกลมกลืน ในขณะที่เสื้อผ้า ก็ได้สร้างความหมายใหม่และหนทางออกใหม่ๆ ขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์
โดยยังคงแนวคิด #UseTheExisting ใช้สิ่งที่มีอยู่ในการขับเคลื่อนการสร้างสรรค์ผลงาน ไม่เพียงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการจัดแสดงโชว์ในพื้นที่ที่มีอยู่แล้ว นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงปรัชญาของแบรนด์แอร์เมเนจิลโดเซนญ่า ได้อย่างลึกซึ้ง ยังสะท้อนให้เห็นถึงการผลิตที่มีความรับผิดชอบต่อโลกอีกด้วย
อารมณ์ของการโลดแล่นอย่างเป็นอิสระ ความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์ผลงานยังนำเสนอผ่านรูปทรงและการเลือก ใช้สีของเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นนี้ ที่มีความนุ่มนวลอ่อนโยน โดดเด่นด้วยเฉดสีน้ำตาลดินเหนียว สีเหลืองดอกขจร สีชมพูดอกไฮเดรนเยีย สีเทาเซเลไนท์ สีฟ้าหินแม่น้ำ สีเขียวด้วงคาราบัส สีดำหินชนวน โดยใช้เนื้อผ้าที่มีความโปร่งเบา แต่เหนียวแน่น ทั้งวูล เฮมพ์ เส้นใยดิบ ลินิน เปเปอร์ซิลค์ หนังแกะที่ดูเหมือนกระดาษ และส่วนของวูลขนสัตว์ที่เหลืออยู่จากการผลิตในโรงงานภายใต้ปรัชญา #UseTheExisting ใช้สิ่งที่มีอยู่
การสร้างสรรค์รูปแบบแพตเทิร์นเสื้อผ้าอันแปลกใหม่ทั้งช่วงไหล่ที่ลู่ลง คอปกต่ำ การเลเยอร์รูปแบบเสื้อผ้าต่างๆ และการนำเสนอรูปแบบใหม่ในเชิงฟังก์ชั่นของเสื้อผ้า ทั้งการนำเอากระเป๋าหรือซิปออกมาไว้ข้างนอก ทำให้เกิดการขยายตัวของวอลลุ่มของเสื้อผ้า อเลสซานโดร ซาร์โตริ อาร์ทิสติกไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ ได้ขยายรูปแบบของการแต่งตัวสุภาพบุรุษด้วยการผสมผสานแบบใหม่ภายใต้วิสัยทัศน์ของเขา ในการทำงานให้กับแบรนด์ แอร์เมเนจิลโดเซนญา โดยได้แรงบันดาลใจมาจากการหลอมรวมโลกที่แตกต่างกันเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งการตัดเย็บ เอาต์เตอร์แวร์โดยใช้ผ้าสำหรับการทำเสื้อเชิ้ต และวิธีอื่นๆ อีกมากมาย ที่ทำให้ผู้ที่สวมใส่มีอิสระในการผสมผสาน และตีความเสื้อผ้าชิ้นนั้นๆ ได้อย่างสมบูรณ์
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือความสะดวกสบายที่ลื่นไหลและไร้ขีดจำกัด ด้วยการเน้นความสำคัญของการใช้เสื้อคอเต่าแทนเสื้อเชิ้ตที่อยู่ภายใต้เบลเซอร์หรือเชิ้ตแจ็กเกต การใช้ดัสเตอร์โค้ตตัวยาวที่มีน้ำหนักเบาและโอเวอร์ไซส์ ที่ง่ายต่อการสวมใส่ จับคู่กับกางเกงที่มีความยืดหยุ่นคล่องตัว ทำให้เกิดซิลูเอตต์ที่ดูสูงและสง่างามมากขึ้น รองเท้าโลฟเฟอร์หัวกลมมน พร้อมเพิ่มความหนาของพื้นรองเท้าและรองเท้าแซนดัล เพื่อที่จะสร้างลุคในหน้าร้อน นอกจากนี้ยังมีการใช้ลายพิมพ์ มัดย้อมเพื่อทำให้การเลเยอร์สีและเท็กซ์เจอร์ของเสื้อผ้ามีความสมบูรณ์มากขึ้น และสร้างความใกล้ชิดระหว่างธรรมชาติและมนุษย์
“ช่วงเวลาเช่นนี้ อาจจะเป็นช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของเครื่องจักรกล แต่ที่ Zegna เราเคารพในประเพณีวัฒนธรรรมดั้งเดิมของความเป็นมนุษย์ ซึ่งก็คือวิถีแห่งความเป็นอิตาเลียนอันลึกซึ้ง เราเชื่อว่ามนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ได้อย่างกลมกลืน การที่เราได้รับสิ่งที่ดีและยอดเยี่ยมจากการใช้เครื่องจักรกล นั่นก็เป็นเพราะความสามารถและความสร้างสรรค์ของมนุษย์นั่นเอง หากไม่มีมนุษย์ทุกอย่างก็จะไร้ซึ่งจิตวิญญาณ การทำงานในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการหลอมรวมกันของอารมณ์และความรู้สึก ความสมดุลของอดีตและอนาคต ข้างในและข้างนอกที่สอดประสาน กลมกลืนกันอย่างเหนียวแน่น ซึ่งในขณะเดียวกันก็ยังแสดงให้เห็นถึงผลงานอันมีแง่มุมที่หลากหลาย” อเลสซานโดร ซาร์โตริ อาร์ทิสติก ไดเร็กเตอร์ กล่าว