หลังจากได้ทราบกันในเบื้องต้นถึงแนวทางการตรวจด้วยเทคโนโลยี Precision Cancer Medicine (การเลือกวิธีการรักษามะเร็งที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยแบบจำเพาะบุคคล) จะทำให้รู้จักกลไกของโรคมากขึ้น นำไปสู่การลดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดตามมา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดการใช้ยาโดยไม่จำเป็น ลดการเกิดผลข้างเคียงในผู้ป่วยบางราย รวมไปถึงสามารถทำให้เกิดการพัฒนาตัวยาใหม่ๆ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการดูแลคนป่วย ที่สำคัญคือทำให้เกิดการใช้ยาให้ถูกคน ถูกโรค และ ถูกเวลา
ในอดีตราว 10 ปีก่อน การถอดรหัสพันธุกรรมด้วยเทคโนโลยี Precision Cancer Medicine ต้องใช้เงินในการตรวจจำนวนมหาศาลประมาณหลักพันล้านเหรียญต่อคน แต่ปัจจุบันในต่างประเทศมีการตรวจด้วยเทคโนโลยี Precision Medicine มากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายการตรวจต่อคนลดลงเหลือเพียง 1,000-2,000 เหรียญ ไม่เพียงค่าใช้จ่ายที่ลดลง แต่ในทางการแพทย์ยังจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาในจำนวนมากขึ้น และสามารถทำการรักษาได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย
ทว่าการตรวจ Precision Cancer Medicine ที่นำมาใช้กับการตรวจโรคมะเร็ง โดยเฉพาะในประเทศไทยยังพบข้อจำกัดอยู่ไม่น้อย ทั้งระยะเวลารอคอยผลการตรวจ เนื่องจากต้องมีการส่งไปตรวจยังศูนย์แลปในต่างประเทศ แต่สิ่งสำคัญที่สุดเห็นจะเป็นข้อจำกัดทางด้านการรับรู้ของทั้งตัวผู้เข้ารับการรักษาเองก็ดี รวมไปถึงคนรอบข้างผู้เข้ารับการรักษา จึงทำให้ประเทศไทยมีสถิติการตรวจ Precision Cancer Medicine ทั้งประเทศรวมกันประมาณ 500-600 คนต่อปี ส่งผลต่อการเก็บสถิติข้อมูลที่จะนำมาใช้นั้นยังมีจำนวนไม่มากพอที่จะนำมาเก็บรวบรวมวิเคราะห์ ข้อมูลได้ดี และนำไปสู่การรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้ไทยมากยิ่งขึ้น
Precision Cancer Medicine กับคนไทย ถึงแม้ปัจจุบันเทคโนโลยี Precision Cancer Medicine ยังไม่แพร่หลายและเป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากนัก ซึ่งในทางตรงกันข้ามจำนวนผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทยกลับมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงจำนวนการสูญเสียก็มากขึ้นตามไปด้วย จุดเริ่มต้นที่จะช่วยลดตัวเลขผู้ป่วยและผู้สูญเสีย จึงควรเริ่มจากการตรวจวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้น ถ้าคนไทยสามารถตรวจหาโรคมะเร็งผ่านเทคโนโลยี Precision Cancer Medicine ได้มากขึ้น ผู้ป่วยมะเร็งก็จะมีโอกาสในการรักษาที่เหมาะสมมากขึ้น นอกจากช่วยลดปัญหาทางกายภาพแล้ว ยังช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นทางด้านจิตใจ โดยเฉพาะความกังวลในการรักษา ค่าใช้จ่ายในการรักษา ที่สำคัญสามารถเข้ารับการรักษาได้ตรงตามอัตลักษณ์แบบเฉพาะเจาะจง ช่วยดูแลผู้ป่วยมะเร็งได้ถูกคน ถูกโรค ถูกเวลา พุ่งเป้าการรักษาให้มีประสิทธิภาพ ไม่หลงทางจนอาจจะนำไปสู่การเกิดปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อผู้เข้ารับการรักษา
นพ.วิกรม เจนเนติสิน อายุรแพทย์มะเร็งวิทยาและเคมีบำบัด โรงพยาบาลนวเวช ยังได้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญของการตรวจด้วย Precision Cancer Medicine ส่วนใหญ่คนไข้ที่ใช้เทคโนโลยีนี้จะประกอบด้วย 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ 1) กลุ่มคนไข้ที่รักษามาเยอะทุกรูปแบบของการรักษา 2) กลุ่มคนไข้เป็นโรคที่ไม่เจอบ่อย อาจจะเป็นโรคที่พบได้ 1 คนในจำนวน 100,000 คนแต่ถ้ารักษากับคนไข้เพียงสองกลุ่มนี้ การเก็บข้อมูลจะน้อยมาก ต้องใช้ระยะเวลานาน หรือถ้ารอไปตรงจุดนั้นแล้ว คนไข้จะไม่ได้รับประโยชน์จากการตรวจ ต่อให้ตรวจเจอโรคร่างกายคนไข้ก็อาจจะรับไม่ไหว แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าเราได้ข้อมูลมาก่อน จะสามารถช่วยวางแนวทางในการเลือกแผนการรักษาที่ดีได้ตั้งแต่เริ่มต้น โดยไม่ต้องผ่านการลองผิดลองถูก อย่างน้อยก็จะช่วยยืดการตอบสนองให้ดี ดีมาก และดีไปเรื่อยๆ ตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่มีการลุกลามรวดเร็ว ไม่เหมาะสำหรับการลองผิดลองถูก เพราะการหลงทางไปกับรักษาแบบไม่เหมาะสมกับคนไข้ นอกจากทำให้เสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากโดยไม่ได้รับประโยชน์จากการรักษาแล้ว ยังทำให้เกิดการสูญเสียตามอีกด้วย
Vaccine syringe pointing to the center of the target with viruses. 3d illustration. Isolated on white background.
อย่างไรก็ตาม นพ.วิกรม ยังคงเน้นย้ำคำแนะนำในการตรวจสำหรับคนไข้ที่มีความเสี่ยงทั้งในเรื่องกรรมพันธุ์ พฤติกรรมการใช้ชีวิตและสภาพแวดล้อม ทั้งการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ มลพิษทางอากาศ หรือสารปนเปื้อนในอาหาร หรือผู้ที่มีความรู้สึกผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกาย ให้เข้ารับการตรวจเช็คตั้งแต่เบื้องต้น เพื่อลดความกังวลใจ และจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างเหมาะสมอย่างทันท่วงที
ผู้ป่วยมะเร็งต้องดูแลอย่างเป็นระบบ การรักษาผู้ป่วยมะเร็งจึงจำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากการปรึกษาพูดคุยกับคนไข้อย่างละเอียด จากนั้นเข้าสู่กระบวนการตรวจรหัสพันธุกรรมมะเร็งด้วยเทคโนโลยี Precision Cancer Medicine เมื่อได้ข้อมูลจึงนำมาวิเคราะห์บนฐานข้อมูล จนกระทั่งออกมาเป็นรีพอร์ต และนำรีพอร์ตมาวิเคราะห์ เพื่อไปสู่ขั้นตอนของการวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย และเหมาะสมกับโรค ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่สุดของกระบวนการดังกล่าวคือ ผู้รับการรักษาจะต้องเป็นศูนย์กลางของการรักษา หรือ Patient Centric แพทย์จะวางแผนการรักษ จึงจะสามารถผลักดันให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เข้ารับการรักษาได้
โรงพยาบาลนวเวช มุ่งให้บริการทางการแพทย์ที่ดีและเข้าถึงง่าย พร้อมดูแลสุขภาพของทุกคนอย่างเข้าอกเข้าใจ ด้วยบริการทางการแพทย์ที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมมอบบริการตรวจ Precision Cancer Medicine สำหรับคนทุกช่วงวัย โดยไม่มีข้อจำกัด เพื่อช่วยดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนไปสู่กระบวนการวางแผนการดูแลคนไข้ได้อย่างเป็นระบบ
ผู้สนใจสามารถขอรับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางได้ที่ ศูนย์มะเร็งและโรคเลือด โรงพยาบาลนวเวช โทร. 02 483 9999 และ www.navavej.com
ขอบคุณข้อมูลจากศูนย์มะเร็งและโรคเลือด โรงพยาบาลนวเวช