“นัมเบอร์วัน มาร์เก็ต” ฉลองครบรอบ 26 ปี กางโรดแมปปี 67 ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาทต่อยอดธุรกิจสู่ “คอมมูนิตี้ มาร์เก็ต” ย้ำความเป็นศูนย์กลางการค้าใหญ่ที่สุดย่านกรุงเทพฯ ตะวันออก ตอบโจทย์ผู้บริโภค และคู่ค้า ครบครันทุกความต้องการทั้งกลางวันและกลางคืน
คุณสุกัญญา สุวรรณนภาศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นัมเบอร์วันแลนด์ จำกัด ใช้โอกาสฉลองครบรอบ 26 ปี นัมเบอร์วัน มาร์เก็ต กางแผนธุรกิจปี 2567 เตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท เดินหน้ายกระดับธุรกิจก้าวสู่ “คอมมูนิตี้ มาร์เก็ต” (Community Market) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อนำไปสู่ภาพลักษณ์ใหม่ที่ดูทันสมัย และพัฒนาพื้นที่โซนต่าง ๆ เน้นความหลากหลาย ครบวงจร รวมทั้งพัฒนาร้านค้าให้มีคุณภาพทั้งสินค้าไทยและต่างประเทศในราคาที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค พร้อมลุยตลาดนัดกลางคืน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ‘กิน ช้อป เที่ยว‘ เพื่อเพิ่มทราฟฟิกให้มากขึ้น โดยเน้นโมเดลการเป็นศูนย์รวมการค้าใจกลางชุมชนขนาดใหญ่ ที่คัดเลือกร้านค้าให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ ทั้งร่วมมือกับโรงเรียน มหาวิทยาลัย และพันธมิตร ในรัศมี 3-5 กิโลเมตรโดยรอบ จัดกิจกรรมต่าง ๆ ส่งเสริมด้านการขาย และ การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ให้ทุกตารางนิ้วเป็นพื้นที่แห่งการใช้ชีวิตที่แท้จริง
“เราจะพัฒนาตลาดให้เป็นที่รู้จักและยอมรับทั้งจากคู่ค้าและลูกค้าทั่วไป เพื่อพัฒนาเป็น คอมมูนิตี้ มาร์เก็ต (COMMUNITY MARKET) แนวหน้าของประเทศไทย ที่สามารถแข่งขันและยืนหยัดได้ในวงการค้าปลีก และเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าอย่างยั่งยืน คุณสุกัญญา กล่าว
นัมเบอร์วัน มาร์เก็ต เป็นตลาดค้าปลีก ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพตะวันออก ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ พื้นที่ 111 ไร่ มีจำนวนร้านค้ากว่า 2,000 ร้านค้า แบ่งเป็น 5 โซน เพื่อความสะดวกในการซื้อสินค้าครบทุกประเภท มีกำลังซื้อรองรับกว่า 30,000 หลังคาเรือน เป็นทั้งแหล่งพักอาศัย แหล่งรวมธุรกิจการค้า สถานศึกษา และสถานที่ราชการ พื้นที่โดยรอบติดกับถนนสายสำคัญ อาทิ ถนนเทพรัตน์ (บางนา กม.8) มีการจับจ่ายซื้อของในตลาด ประมาณ 20,000 คน ต่อวัน โดยพบว่ามีรถเข้ามาใช้บริการราว 5,000 คัน ต่อวันในวันปกติ และในช่วงเทศกาลสำคัญไม่ต่ำกว่า 8,000 คัน ต่อวัน
คุณปรียาวัฒน์ ยอดดี ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายกิจการตลาด กล่าวว่า “นัมเบอร์วันมาร์เก็ต ก้าวเข้าสู่ปีที่ 26 อย่างมั่นคงด้วยการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักลูกค้าเป็นสำคัญ เราพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุด อาทิ สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภค เพื่อรองรับจำนวนผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น เช่น การสร้างอาคารจอดรถในร่มโดยจอดได้มากกว่า 500 คัน (ใช้งบประมาณกว่า 80 ล้านบาท) เปิดให้บริการในวันที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา หลังจากเปิดบริการสามารถเพิ่มจำนวนรถหมุนเวียนเข้าออกมากขึ้น 20% ต่อเดือน รวมทั้งการปรับทัศนียภาพและภูมิทัศน์ให้ร่มรื่น เพิ่มพื้นที่พักผ่อน เน้นความสะอาดด้านสุขอนามัย สะดวก สะอาด ปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่มาใช้บริการ
“เราเน้นทำการตลาดเชิงรุก โดยมีการจัดงานและกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับออแกนไนซ์ ผู้ประกอบการ และองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เพื่อคืนกำไรให้กับผู้บริโภค ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์สังคม และมีส่วนร่วมในการพัฒนา นอกจากนี้เรายังเชื่อมั่นในการทำธุรกิจที่ยั่งยืนควบคู่กับสังคม โดยให้ความสำคัญกับชุมชน และคนในสังคม เราจึงช่วยเหลือและตอบแทนสังคมอยู่เสมอ เช่นเดียวกันกับกิจกรรมรับบริจาคขวดพลาสติกเพื่อทำผ้าไตรจีวร มอบให้กับวัดจากแดง หรือ การรับบริจาคสิ่งของจำเป็น มอบให้กับท่านเจ้าคุณอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งทางนัมเบอร์วันได้ดำเนินการติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี
สำหรับกิจกรรม ฉลองครบรอบ 26 ปี นัมเบอร์วันมาร์เก็ต ที่บริษัทฯ จัดตั้งแต่วันที่ 1 – 9 กันยายนที่ผ่านมา จึงเป็นหนึ่งในหมุดสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าเราพร้อมที่จะปรับเปลี่ยน เรียนรู้ และ ตอบแทนสังคม ด้วยการเปิดพื้นที่ให้นักเรียน นักศึกษา ได้มีพื้นที่แสดงออก อาทิ การแสดง RATWINIT BANGKAEO WIND SYMPHONY (โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว), การแสดง คัฟเวอร์ แดนซ์ (โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว และวิทยาลัยพณิชยการบางนา), การแสดงวงโยธวาทิต (โรงเรียนราชดำริ และ โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต), การแสดงนาฏศิลป์ไทย (โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบ วิทยาลัย สมุทรปราการ), การแสดงคอนเสิร์ต RU BAND (นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง) และการแสดงคอนเสิร์ต จาก THE STAR COPY SHOW รวมทั้งการจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษจากความร่วมมือของผู้ประกอบการ เป็นต้น
ท้ายนี้ ความสำเร็จของ นัมเบอร์วันมาร์เก็ต ตลอด 26 ปี จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากการสนับสนุนจากลูกค้าและพันธมิตรทุกท่าน นัมเบอร์วันมาร์เก็ต ขอขอบคุณจากใจและขอสัญญาว่าเราจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์การช้อปปิ้ง ควบคู่ไปกับการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอย่างยั่งยืน คุณปรียาวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย