การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย / วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 / ด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา จัดการประชุมและรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนเพื่อจัดทำแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวจากตลาดซาอุดีอาระเบีย โดยมี รมว.กก. ให้เกียรติเป็นประธาน มีการนำเสนอ แผนการเปิดตลาดการท่องเที่ยวแบบ 2 ทาง (Two Way Tourism) ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย และความคืบหน้าการเตรียมการลงนาม MoU ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย
และ ผทท. นำเสนอนโยบายการพัฒนาซาอุดีอาระเบียไปสู่ยุคสมัยใหม่ (Saudi Vision 2030) ซึ่งปรับใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมตลาดของไทยได้ โดยมุ่งเน้นความสะดวกในการเดินทาง (Ease of travel) และส่งเสริมกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) สุขภาพและความงาม (Health & Wellness) และธุรกิจค้าปลีก (Retail Business)
นอกจากนี้ รผย. ได้นำเสนอข้อมูลภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบีย และแผนการดำเนินงานของ ททท. ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับตลาดดังกล่าว
ในช่วงการรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน มีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 20 ราย มีทั้งสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว สายการบิน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และผู้ประกอบการ Health and Wellness
มีห้วข้อการหารือ ดังนี้
1. การเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างประเทศไทยและซาอุดีอาระเบีย การเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีซึ่งนิยมเดินทางเป็นครอบครัว มี Spending สูงถึง 120 USD/คน สามารถทำ Visa on Arrival และพำนักอยู่ในประเทศไทยได้ 15 วัน
2. ส่งเสริมการท่องเที่ยว Special Interest 2.1 การส่งเสริมการท่องเที่ยวความสนใจพิเศษ กลุ่ม Medical Tourism และ Health & Wellness Tourism โดยสร้างภาพลักษณ์ของไทย ให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการให้บริการด้าน Medical, Health and Wellness ที่มีความเป็นเลิศด้านมาตรฐานการรักษาและการให้บริการที่ประทับใจ
2.2 การส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น Shopping Paradise ให้ตรงตามความนิยมของนักท่องเที่ยว โดยผู้ประกอบการมีความสนใจในการจัดทำ On Board Privilege มอบให้กับนักท่องเที่ยว
2.3 เตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อจัดทำแพ็คเกจท่องเที่ยวสำหรับตลาดซาอุดีอาระเบีย ทั้ง B2B ควบคู่ไปกับ B2C เพื่อให้เข้าถึงกลุ่ม Millennial เป็นกลุ่มที่นิยมค้นหาข้อมูลและออกเดินทางด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงแรกมุ่งทำผ่านระบบออนไลน์ (Virtual Mart) เพื่อให้ทันการออกเดินทางของนักท่องเที่ยวภายหลังเทศกาลถือศีลอดในเดือนพฤษภาคม โดยผู้เข้าร่วมประชุมให้ความเห็นว่าให้จัดทำข้อมูลท่องเที่ยวเป็นภาษาอาหรับจะเป็นประโยชน์และสามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น